วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

NoteSlate แท็บเลตนอกคอก

ข่าว iphone 5 ราคาถูก รองรับซิมทุกระบบ

ไอโฟนรุ่นใหม่เตรียมออกวางจำหน่ายกลางปี ตั้งราคาถูกลง ปลดสัญญาทาสกับค่ายมือถือ และรองรับซิมหลายระบบในเครื่องเดียว

รายงานข่าวจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุข้อมูลจากคนวงในกล่าวถึงไอโฟนรุ่นใหม่ตั้งใจออกมาสยบกระแสของแอนดรอยด์ คู่แข่งตัวฉกาจ และคราวนี้ไม่ได้มีวางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว แต่เพิ่มตัวเลือกมากขึ้น รวมถึงรุ่นหนึ่งราคาถูกลง และเล็กกว่าไอโฟน 4 ตัวล่าสุด และยังมีแผนปรับระบบให้สามารถใช้งานได้กับเครือข่ายไร้สายหลายระบบมากขึ้น
 ข้อมูลดังกล่าวมาจากปากของบุคคลที่ได้เห็นตัวเครื่องต้นแบบ โดยขอให้ปิดชื่อเสียงเรียงนามเนื่องจากแผนดังกล่าวยังไม่พร้อมเปิดเผยต่อสาธารณะ
 สตีฟ จ็อปส์ ยังเป็นตัวหลักทำหน้าที่ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์แม้จะอยู่ในช่วงลาป่วยก็ตาม เป็นไปได้ว่าแอ๊ปเปิ้ลอาจใช้กลยุทธ์ขายเครื่องราคาต่ำเพื่อจูงใจผู้ใช้ไอโฟน และป้องกันไม่ให้สูญเสียฐานลูกค้าให้กับแอนดรอยด์ ราคาที่ตั้งไว้ต่ำอาจสร้างแรงกดดันต่อค่ายโนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียนที่ได้รับความนิยมมากในยุโรป และตลาดเกิดใหม่
 ข้อมูลจากคนวงในระบุว่าแอ๊ปเปิ้ลอาจจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่ราคา 200 ดอลลาร์ หรือราว 6 พันกว่าบาท โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องผูกสัญญาใช้งานกับค่ายโทรศัพท์มือถือ 2 ปีอีกต่อไป ราคาดังกล่าวถือว่าใกล้เคียงกับมือถือระบบแอนดรอย์ดที่จำหน่ายร่วมกับเอทีแอนด์ที, เวอริซอน ไวร์เลส และค่ายอื่น ขณะที่ไอโฟน4 จำหน่ายราคา 200 - 300 ดอลลาร์ โดยผูกสัญญากับผู้ให้บริการมือถือในสหรัฐ
 ส่วนไอโฟนรุ่นใหม่มีขนาดเล็กกว่าไอโฟน4 ราว 1 ใน 3 และไม่มีปุ่ม "Home" อยู่ด้านล่างหน้าจอ ส่วนราคาที่ถูกลงมาเป็นเพราะใช้ซีพียู จอ และอุปกรณ์อื่นรุ่นเดียวกับที่ใช้กับไอโฟน4 แทนที่จะหันไปหาฮาร์ดแวร์ที่แพงขึ้น และชิ้นส่วนที่ทันสมัยขึ้นสำหรับไอโฟนรุ่นใหม่
 แหล่งข่าวใกล้ชิดยังบอกด้วยว่า ไอโฟนตัวใหม่รองรับซิมการ์ดได้หลายระบบ แปลว่าผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานจีเอสเอ็มหลายระบบได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดตามค่ายของผู้ให้บริการมือถือ แต่รายงานไม่ได้ระบุชัดว่าเครื่องรุ่นราคาต่ำจะมีคุณสมบัติรองรับซิมหลายระบบด้วยหรือไม่




ไอโฟน
ข่าว iphone 5


สปริง สไมล์ แอนดรอยด์โฟนโคตรน่ารัก

SPRiiiNG Smile

มาแล้ว มาแล้ว สมาร์ทโฟนขนาดกระทัดรัด SPRiiiNG Smile แอนดรอยด์แพลตฟอร์มสำหรับหนุ่มช่างแชท สาวช่างเมาท์​ และคนรักโซเชียลเน็ตเวิร์ก เล็กดี ราคาเบา จอสัมผัสมีคีย์บอร์ดสไตล์แบล็กเบอร์รี่…
หลังจากสร้างความฮือฮาและสีสันให้กับตลาดสมาร์ทโฟนไปได้พักใหญ่ด้วยการทำตลาดที่แหวกแนวของผู้บริหารคนไทย  และยังมีการไปโชว์ตัวในงานกีฬามหาวิทยาลัยเมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาอีกต่างหาก เรากำลังพูดถึง SPRiiiNG Smile สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์แพลตฟอร์ม ที่เอามาจับตลาดขาแชท และ คอโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะด้วยจุดเด่นที่เป็น QWERTY keyboard คล้ายกับ BlackBerry ที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่น และคนทำงานรุ่นใหม่ๆ นั่นเอง ถือเป็นการเปิดตัวมือถือแอนดรอยด์ 2.1 ที่สวนกระแส เพราะส่วนมากจะเป็นสมาร์ทโฟนแบบจอสัมผัสมากกว่า

สำหรับส่วนตัวแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นรูปแบบการดีไซน์ครั้งแรก SPRiiiNG Smile ออกแบบตรงมาจากประเทศสวีเดน  ภายใต้การผลิตของยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม อย่างหัวเหว่ยในซีรีย์  ไอดีอออส นั่นเอง ในด้านการจับสัมผัส  SPRiiiNG Smile ค่อนข้างกระทัดรัดขนาดประมาณอุ้งมือ โดยตัวเครื่องเหมือนเลข 8 วัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกเกือบทั้งหมด ทำให้มีน้ำหนักเบา แต่ยังแข็งแรงระดับหนึ่ง ซีลล็อคต่างๆ ปิดสนิดติดแน่นไม่มีโยกคลอน หรือ หลุดได้ง่ายๆ   สำหรับจอแสดงผล เป็นจอขนาด 2.6 นิ้ว QVGA แบบทัชสกรีน
ส่วนปุ่มกดก็กดง่ายมีขนาดปุ่มไม่ต่างไปจาก บีบีมากนัก แถมยังมีคีย์ลัดในการใช้งานฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น โปรแกรมแชท ไฟฉาย เป็นต้น การควบคุมนอกจาก  QWERTY keyboard และทัชสกรีนยังมี แทรคบอลล์อยู่ใต้หน้าจอ เพื่อควบคุมการเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ อีกด้วย  เรียกได้ว่าเป็นแอนดรอยด์ที่มีกลิ่นอายของแบล็กเบอร์รี่เต็มๆ จริงๆ สำหรับ  SPRiiiNG Smile รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งแบบ 2G ที่เป็นความถี่ GSM 850/900/1800/1900 MHz และ เครือข่าย  3G  HSPDA/WCDMA   บนความถี่ 900 / 2100 MHz จึงสามารถใช้งานกับซิม 3G ในเมืองไทยได้


ในขณะที่ความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อด้านต่างๆ ก็ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น บลูทูธ 2.1 ไวไฟ  ระบบ GPS  และ เข็มทิศดิจิตอล แผนที่นำทางกูเกิลแม็ปส์ และสปริง แชท ที่แต่ละเครื่องจะมี สปริง คีย์ ที่สามารถลงทะเบียนเป็นเจ้าของไอดีแชทนั้นๆ ได้ตลอดไป คล้ายๆ กับ BB  Pin นั่นเอง สปริงแชมสามารถสร้างกลุ่มแชมได้ 200 รายชื่อต่อกลุ่ม ขณะที่ค่าบริการจะป็นการจ่ายรายสัปดาห์ กับโอเปอเรเตอร์ที่ผูกเบอร์ อีกทั้งยังสามารถส่งรูปถ่าย วีดีโอ อัดเสียงส่งไป หรือ File  เอกสารต่างๆ ได้อีกด้วย  นี่เป็นข้อดีของโปรแกรมตัวนี้ที่ทำได้ดีมากๆ ไม่ได้มีแต่การแชทเท่านั้น 
นอกจากจะแชทกับเครื่องสปริงด้วยกัน ล่าสุดยังสามารถแชทกับเพื่อนที่ใช้แบล็กเบอร์รี่ ผ่านสปริงแชทได้อีกด้วย  และในอนาคตอันใกล้ก็จะพูดคุยกับผู้ที่ใช้ไอโฟนได้เช่นกัน นับเป็นมือถือที่อนาคตไกลจริงๆ พูดถึงข้อดีมาเยอะก็ขอติข้อเสียนิดนึงครับ สำหรับ SPRiiiNG Smile เนื่องจากเครื่องราคาไม่แพง ตัวฮาร์ดแวร์ที่ใช้จึงมีสเปคต่ำไปนิด แม้ว่าจะดีในแง่ที่เปิดเครื่องแล้วบูทได้ไวก็ตาม ส่วนกล้องดิจิตอลที่ติดมาแม้ว่าความละเอียดจะอยู่ที่ 3 ล้านพิกเซล แต่ภาพที่ได้มาก็คุณภาพไม่ประทับใจเท่าที่ควร ในส่วนของหน่วยความจำ MicroUSB รองรับหน่วยความจำแบบ MicroSD รองรับสูงสุด 32 GB ก็พอน่ารักน่าลุ้นไม่มากไม่น้อยเกินไป


สรุปภาพรวมแล้วในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับราคาประมาณ 5,990 บาท (ช่วงโปรโมชั่น) ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ใครอยากมีแอนดรอยด์โฟน สักเครื่องราคาไม่แพง แต่ต้องการความแตกต่างด้านรูปทรง และชอบแชท ซื้อไปเงินก็ไม่หล่นหายครับ…

iPhone 4 Review เจาะลึก คุณสมบัติ iPhone 4 ราคา และ วันวางจำหน่าย

iPhone 4 หรือ iPhone 4G
ได้เปืดให้คนทั่วไปได้ลองใช้งานแล้ว พร้อมกับ ราคา ของ iPhone 4 เองที่ได้ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ โดยราคาของ iPhone 4 มี 2 Rates ในช่วงแรก และจะถูกปรับภายหลังตามความเหมาะสมต่อไป

iPhone 4 Review เจาะลึก คุณสมบัติ iPhone 4 ราคา และ วันวางจำหน่ายiPhone 4 Review เจาะลึก คุณสมบัติ iPhone 4

ภายในงาน Worldwide Developers Conference : WWDC เราได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้ที่ได้เข้าร่วมงานและได้มีโอกาสได้สัมผัสและทดลองใช้ iPhone 4 และนำมา review ให้แฟนๆ สาวก Apple และ คนที่กำลังอยากได้เจ้า iPhone 4 จนตัวสั่น (ฮ่าๆ รู้หรอก)




ขอขอบคุณเพื่อน Mike และ AJ ที่ได้นำเอาประสบการณ์ดีๆมา SHARE กัน (แต่ครั้งหน้าตาตูบ้าง!) เอาละครับ ไปลองดู review iPhone 4 First Time Ever กันได้เลย

What Mike Said about iPhone 4!

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ฟลุก มากที่มีโอกาสได้รับ Quota เข้าไปในงาน WWDC อาจจะน่าเบื่อเพราะพักหลังๆอย่างที่เห็นๆกันว่า Steve Jobs พูดไม่มันเหมือนแต่ก่อน ไม่ค่อยกัดชาวบ้าน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเรารู้มาว่างานนี้จะมีการพูดถึงการปฎิวัติ iPhone ทำไมผมถึงใช้คำว่าปฏิวัตินะเหรอ ก็เพราะว่า อย่างแรกทืี่เห็นชัดๆเลย คือ Design ที่มันเปลี่ยนจาก iPhone รุ่นก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง ตอนคุณใช้ iPhone 3GS คนทั่วไปไม่มีทางแยกออกเลยว่า iPhone ที่คุณใช้อยู่เป็นรุ่นอะไรถ้าไม่เดินเข้าไปขอดูไกล้ๆ

แต่ถ้าคุณถือ iPhone 4 รับรองจะมีคนพูดว่า เฮ่! นั่นมัน iPhone 4 นี่ โคตรเท่ห์เลย

แต่ถ้าคุณถือ iPhone 4 รับรองจะมีคนพูดว่า เฮ่! นั่นมัน iPhone 4 นี่ โคตรเท่ห์เลย
นอกจากนี้รูปทรงที่เปลี่ยนไปออกแบบเหลี่ยมๆ จับกระชับมือสุดๆ … จริงๆแล้ว Steve Jobs ควรคิดเรื่องนี้ได้ตั้งนานแล้ว ชาวโลกทำ iPhone หลุดมือบ่อยๆก็เพราะว่ามันมีรูปทรงที่โค้งๆ รวมถึงเวลาที่คนมือมันๆแล้วไปถือ iPhone นะ มันมีโอกาสลื่นหลุดมือแน่นอน (แต่แปลกใจที่ Jobs ไม่เคยทำตกหรือไง??)

แต่ถ้าคุณถือ iPhone 4 รับรองจะมีคนพูดว่า เฮ่! นั่นมัน iPhone 4 นี่ โคตรเท่ห์เลย

เอาหละ Feature ต่อไปที่เพิ่มเข้ามาก็คือ กล้อง ซึ่งใน iPhone 4 นี้มีให้มาถึง 2 ตัว และมีความละเอียดสูงถึง 5 ล้าน น่าตื่นเต้นมากๆ ให้ตายเถอะ รู้สึก Samsung หรือมือถือเจ้าอื่นๆเค้ามี Feature ที่ว่านี้มาตั้งแต่ ปีสองปีที่แล้วแล้ว แต่เอาเถอะ มาช้าดีกว่าไม่มา
แต่ไอ้รูปที่ Steve Jobs ถ่ายแล้วเอามา Show บนเวทีกับเวลาลองเอามาถ่ายจริงๆ มันค่อนข้างคนละเรื่อง ไม่รู้รูปที่ตา Jobs เอามาใช้มัน Set แสงอะไรหรือเปล่า เพราะ ถ่ายออกมาจริงๆแล้ว กล้องปัญญาอ่อนก็คือกล้องปัญญาอ่อน มันไม่ได้คมชัด ใสเว่อร์อะไรหรอก ต่อให้เป็น 5 ล้าน Pixel ก็จริง แต่คุณภาพของภาพจาก iPhone 4 มันไม่ได้ดีกว่ากล้องปัญญาอ่อนทั่วไปเลย (อย่าไปคาดหวังอะไรมาก)

แต่ถ้าคุณถือ iPhone 4 รับรองจะมีคนพูดว่า เฮ่! นั่นมัน iPhone 4 นี่ โคตรเท่ห์เลย

เรื่องความเร็วระบบและเรื่องความเสถียร อืมๆๆ ยังบอกอะไรมากไม่ได้ iPhone 4 ก็เหมือนกับอุปกรณ์ Computer อื่นๆทั่วไปคือ ตอน Test ที่ร้านมัน Run โคตรเร็ว ไม่มี Hang เลย แต่พอไปใช้ที่บ้าน ปรับนู่นๆนี่ๆ ไปๆมาๆ ช้าเฉยเลย
แต่ที่ไม่ค่อยคิดว่าจะสำคัญอะไรอย่างระบบ Multitasking หรือที่ประมาณว่ารองรับการ Run Program ต่างๆพร้อมๆกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทำไม่ได้ แต่เอาเถอะ คงไม่ค่อยมีใครเปิดอะไรพร้อมๆกันหลายๆ Program ในคราวเดียวกันเท่าไหร่

iPhone 4 Supporting Multitasking

ส่วนเรื่องการแสดงผลที่ Staff โม้นักโม้หนาคือมันจะชัดขึ้นกว่าเดิมมากมายแถมตั้งชื่อ Feature นี้ขึ้นมาเองอีกว่า เรตินา พอได้สัมผัสดูก็พบว่าอันนี้เนียนจริงๆ ปกติชอบ Apple ก็เพราะเรื่องความเนียนของการแสดงผลนี่แหละ
ส่วนเรื่องอื่นๆเช่น ระบบตัดเสียงรบกวนเวลาโทรศัพท์หรือระบบ Gyroscope ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเรื่องการควบคุมทิศทาง (พวกชอบเล่นเกมส์ทั้งหลายคงถูกใจ) ยังไม่ค่อยได้ทดสอบอะไรเท่าไหร่ ไม่มีเวลาแล้ว มางานแบบนี้ทั้งทีก็ถือโอกาสเดินคุยๆกะพวกที่อยู่ในวงการเหมือนกัน อีกอย่างเดี่ยว Steve Jobs ก็ต้องพูดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

iPhone 4 Gyroscope

เอาหละ ถ้าถามว่าน่าซื้อไม๊ iPhone 4 ก็ต้องบอกเลยว่าน่าซื้อมาก มันสวยจริงๆ กระชับมือ ดูหรูมาก วัสดุที่ใช้ผลิตต้องบอกว่าเยี่ยมจริงๆดูคล้ายๆเคลือบด้วยกระจก แต่ Staff บอกไม่ใช่กระจก ช่างมัน งง ไม่ค่อยอยากจะใส่ใจคำพูดพวกพนักงาน จาก Apple นัก พวกนี้ถูกเทรนให้สามารถพูดเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องอเมซซิ่งได้ หรือไม่ก็สามารถพูดเรื่องปมด้อยของ Product ตัวเองให้ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรได้อย่างน่าตาเฉย ที่ตลกที่สุดคือสามารถชมสิ่งที่ชาวบ้านเค้ามีมานานแต่ตัวเองเพิ่งมีว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ได้ แต่ก็นั่นแหละ Apple ก็คือ Apple หลายๆ Features ก็น่าชมเหมือนกัน เอ้าสาวก iPhone เตรียมเข้าคิวเสียตังซื้อได้เลย !

แล้วจะมีคนเอา iPhone 4 มาขายใน เมืองไทยเมื่อไหร่

แล้วจะมีคนเอา iPhone 4 มาขายใน เมืองไทยเมื่อไหร่?

กำหนดการวางขายของ iPhone 4 จะมีขึ้นใน 5 ประเทศแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ  เยอรมนี ฝรั่งเศส  และญี่ปุ่น ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนก็จะวางจำหน่ายเพิ่มใน 18 ประเทศ และเพิ่มเป็น 40 ประเทศในเดือน กันยายน นี้ ส่วนประเทศที่พัฒนาถึงขั้นสุดยอดแล้วอย่างประเทศไทยก็สามารถเดาได้เลยว่าต้องอยู่กลุ่มหลังๆอย่างแน่นอน

iPhone 4 เครื่องหิ้ว ละ ซื้อที่ไหน ?

เครื่องหิ้ว iPhone 4 สามารถหาซื้อได้ที่ MBK มาบุญครอง Fortune และ Pantip มาแน่นอน แต่จะมาพร้อม ราคา ที่โหดร้ายอย่างแน่นอน สำหรับ ราคา iPhone 4 ทางเราจะนำมา Update เรื่อยๆอย่าลืม Bookmark Web ไว้นะ

มาดูตัวเครื่อง หน้าจอ iPhone 4

iPhone 4 ใช้แก้วเป็นวัสดุหลักทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จุดเด่นที่สำคัญคือการที่ตัวเครื่องที่มีความบางเพียง 9.3 มม. ทำสถิติเป็นสมาร์ทโฟนที่ “บางที่สุดในโลก”ขณะนี้ และยังใช้เทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ล่าสุดที่สามารถแสดงผลได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ถึง 4 เท่า โดยตัวหน้าจอมีขนาด 3.5 นิ้ว และมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ 960×640 พิกเซล
iPhone 4นี้ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขแอปพลิเคชันไอโฟนดั้งเดิมอีก เนื่องจากการแสดงผลแอปพลิเคชันในไอโฟนตัวใหม่จะมีการปรับโดยอัตโนมัติ

iPhone 4CPU Apple A4 ประหยัดพลังงานสุดยอด

จะมาพร้อม “ซีพียูตัวใหม่” ที่ติดตั้งในไอแพดนั่น คือ “Apple A4 ” ที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของการประหยัดพลังงานจนทำให้เครื่องสามารถเล่นเพลง ได้แบบต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 40 ชั่วโมง หรือ เล่นวีดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 10 ชั่วโมง โดยมีระยะเวลาสแตนด์บายเครื่องอยู่ที่ 300 ชั่วโมง

ระบบ Microphone คู่

การมีไมโครโฟน 2 ตัวหรือ Dual Mic ที่สามารถช่วยตัดเสียงรบกวนได้

ความละเอียดของกล้องที่สูงขึ้นถึง 5 ล้าน Pixel

รวมถึงการมีกล้องระดับ 5 ล้านพิกเซล ที่มีคุณสมบัติในการรับแสงได้สูง พร้อมแฟลช LED และยังสามารถรองรับการอัดวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 720p (HD) ได้ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที

ราคาขาย iPhone 4

มีหน่วยความจำ 16GB และ 32GB จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199 และ 299 เหรียญสหรัฐฯ  โดยจะมีสีขาวและดำ
ส่วนราคาขายของ  iPhone 3GS 8GB รุ่นเก่าก็จะถูกปรับลดราคาลงมาเหลือเพียง 99 เหรียญสหรัฐฯ

กำหนดการ วางจำหน่าย iPhone 4G

จะมีขึ้นใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ  เยอรมนี ฝรั่งเศส  และญี่ปุ่น ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้
หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนก็จะวางจำหน่ายเพิ่มใน 18 ประเทศ และเพิ่มเป็น 40 ประเทศในเดือนกันยายนนี้

สรุป Specification และ Key Features ของ iPhone 4

  • ตัว Body ทำจาก สแตนเลส
  • ไมค์ 2 ตัว (Mic หนึงตัว Support ระบบตัดเสียงรบกวน)
  • The Thinnest Smart Phone ด้วยความบาง เพียง 9.3 มิลลิเมตร
  • หน้าจอ Screen 3.5 นิ้ว แบบ IPS ที่ความละเอียด 326 Pixels ต่อนิ้ว (ความละเอียดหน้าจอ 960×640 Pixels) อัตราส่วน 800:1 contrast ratio ซึ่งมากกว่า 3GS ถึง 4 เท่า มาพร้อมกับ ระบบ Retina Display ที่แสดงผลได้ละเอียดสูงมากๆ เรื่องความเนียนไม่ต้องพูดถึง
  • CPU Apple A4 เหมือน iPad ที่ Speed ระดับ 1GHz
  • ต้องใช้ MicroSim (ใช้ Sim ปกติไม่ได้)
  • กล้อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และ Sensor ที่ดีขึ้น Zoom ได้ 5 เท่า และมีกล้องหน้าใช้สำหรับ VDO Call
  • iMovie ช่วยให้สามารถทำหนังใน iPhone อย่างง่ายด้วยการดึงภาพ, วีดีโอ, เสียงในเครื่องมาสร้างเป็นหนังได้ ซึ่งเป็นโปรแกรมขายใน App Store 4.99$ หรือประมาณ 160 บาท
  • สามารถถ่าย VDO HD 720p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สามารถ focus ผ่านทาง Touch Screen
  • แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ขณะที่ตัวเครื่องบางลง ทำให้คุย ในระบบ 3G ต่อเนื่อง 7 ชม. เล่นอินเตอร์เน็ตบน 3G 6 ชม. ต่อ Net ผ่าน Wi-Fi 10 ชม. เล่นไฟล์ วีดีโอ 10 ชม. เล่นเพลง 40 ชม. Standby 300 ชม.
  • รองรับ ระบบ 3G QUADBAND HSDPA 7.2Mbps HSUPA 5.8 Mbps (850/900/1900/2100 MHz)
  • Wi-Fi 802.11n
  • Gyroscope ช่วยทำให้การควบคุมทิศทางบน iPhone ได้แม่นยำขึ้นไม่ว่าจะเอียงซ้ายขวา ใช้ร่วมกับ GPS และ เกมที่ใช้ Sensor ในการควบคุม

25 วิธีตรวจสอบเครื่อง iPhone 4 ใหม่แกะกล่อง [iphone 4 check list]

ใกล้เข้ามาทุกทีกับ การจำหน่าย iPhone 4 อย่างเป็นทางการในไทย (ข่าวเก่า)ก่อนหน้านี้ AppTube ก็เอาผลทดสอบ speestest ของ TRUE 3G มาไว้ประกอบการพิจารณาสำหรับเลือกค่ายที่จะใช้กับไอโฟน 4 แล้ว คราวนี้ก็เลยขอแนะนำ วิธีการเช็คเครื่องไอโฟน 4 ที่หลายคนจะได้แกะกล่องมาใช้เร็ว ๆ นี้ ขอบอกไว้ก่อนว่า รายการเช็คทั้งหมดนี้เช็คอุปกรณ์ในเครื่องไอโฟน ครบทุกฟังก์ชันเลย ข้อมูลก็เลยเยอะหน่อย แต่ก็เพื่อความสบายใจ ส่วนข้อบกพร่อง หรือปัญหาของ iPhone 4 ที่เจอกัน ก็ไม่ได้มีจำนวนเยอะมาก และส่วนใหญ่เป็นปัญหาช่วยแรกของสายการผลิต (คงจะรีบปั้มเครื่องไปหน่อย) แต่ก็ลองเช็คตามรายการข้างนี้กันไว้ก่อนดีกว่า เผื่อโชค "ดี" เฮงเจอเครื่องบกพร่อง แล้วก็ถ้าเจอปัญหาแต่เนิ่น จะได้ไปเคลมเครื่องกัน 
ส่วนใครอยากได้เช็คลิสต์แบบสั้น ๆ ย่อ ก็ลองไปดู checklist iPhone 3GS ก็น่าจะมาประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน มีเพียงบางรายการที่ iPhone 4 เพิ่มเข้ามาจาก iPhone 3GS เช่น Gyroscope และ LED Flash ขอให้มีความสุขกับการใช้ไอโฟน 4 และอย่าลืมใช้ให้คุ้มนะครับ (เพราะมันแพงพอ ๆ กับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึงเลย) 
สุดท้าย อย่าลืมนะครับ iPhone 4 ใช้ MicroSIM ซึ่งแปลว่าต้องเปลี่ยนซิมใหม่นั่นเอง และ iOS 4.1 ยังไม่ได้สามารถเจลเบรคได้ ณ ตอนนี้ ดังนั้นแม้เครื่องมีปัญหา และต้องการจะเจลเบรคเครื่อง ก็รออีกสักหน่อยก่อนการ อัพเดต iOS 4.1
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนที่คุณจะ Sync iTunes ครั้งแรก

ตัว iPhone 4 ที่มีปัญหางานประกอบ

Outer Casing  : ตัวเครื่องภายนอก ลองดูตัวรอบตัวเครื่องว่ามีรอยหรือไม่ มีรอยแตก รอยแยก หรือส่วนไหนหลวมหรือเปล่า iPhone 4 ทำด้วยวัสดุที่แข็งแรงเพราะทำจากแก้วและโลหะ งานประกอบของไอโฟนมีคุณภาพสูง ดังนั้นต้องไม่มีส่วนไหนยวบยาบ ส่วนด้านหน้าและด้านหลังทำการแก้ว จะต้องเสมอเป็นระบายเดียวกันทั้ง 2 ด้าน และรอบตัวเครื่องจะเป็น สแตนเลสสตีล ซึ่งใช้เป็นเสาอากาศ


ลองส่องไฟดูจะเห็นรอยแตก ได้ง่ายกว่า

แม้โอกาสที่จะมี รอยแยก (gap) จะมีน้อย แต่ถ้าโชคร้ายจริงๆ ก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งมองได้ยากซะด้วย วิธีการเช็คก็คือ ให้หัน iPhone 4 ด้านข้าง โดยมีใช้โคมไฟส่องจากด้านหลัง ถ้ามองไม่เห็น แสงใด ๆ รอดออกมา (ตามรูป) ก็แปลว่าตัวเครื่องภายนอกของ iPhone 4 คุณไม่มีปัญหาใด ๆ 
ปุ่ม Home/ Sleep : ปุ่ม 2 ปุ่มนี้ เวลากดแล้วต้องไม่รู้สึกว่า หลวม หรือฝืดเกินไปเวลากด แต่ถ้าปุ่มมันขยับได้เล็กน้อย อันนี้เป็นเรื่องปรกติ แต่ถ้าปุ่ม Sleep บุ๋มลึกเกินกว่าปรกติ หรือปุ่ม Home ต้องใช้แรงกดมากกว่าปรกติ ถึงจะทำงาน อันนี้อาจจะเป็นปัญหาที่การผลิต
Vibrate switch/motor: มอเตอร์สั่น เลื่อนปุ่มปิดเสียงเรียกเข้า เพื่อให้เครื่องใช้มอเตอร์ทำให้เครื่องสั่น เช็คปุ่มว่ากดได้ปรกติดี และทุกครั้งที่เลื่อนปุ่มนี้มาที่ เก็บเสียง (silent) เครื่องจะต้องสั่นทุกครั้ง ซึ่งแสดงว่า ไอโฟน ได้เข้าโหมดเก็บเสียงแล้ว และมอเตอร์ทำหน้าที่สั่นเครื่องทำงานเรียบร้อยดี
สิ่งที่ควรตรวจสอบตอน Sync เครื่อง iPhone 4 ครั้งแรกกับ iTunes
Dock Connector : ช่องเสียบสายเข้ากับคอมพิวเตอร์ ถ้าไอโฟน ไม่สามารถ Sync กับ Windows หรือ Mac ได้, หรือ detect ไม่เจอตัวเครื่องไอโฟน, ไอโฟนไม่ชาร์ทไฟ แปลว่าเครื่องผิดปรกติ
Flash Memory : หน่วยความจำภายในเครื่อง โดยทั่วไปแล้ว ปัญหาที่เกิดกับ Flash memory ไม่ค่อยจะมี แต่ถ้าถึงคราวซวยจริงๆ มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณลอง Sync ไอโฟนกับ iTunes หลายสิบรอบแล้ว ทั้งลองแก้ปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นกับ iTunes แล้วยังไม่หาย สาเหตุก็อาจจะมาจาก เมมโมรี่ในเครื่อง วิธีทดสอบง่ายที่สุด ก็คือลอง Sync ไฟล์ หนัง หรือเพลง เข้าไปให้เต็มความจุของไอโฟน 16 GB หรือ 32 GB แต่มันอาจจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมง เอาไว้ว่างจริงๆ ค่อยลองทดสอบดูแล้วกัน
สิ่งที่ควรตรวจสอบหลังจาก Sync กับ iTunes ผ่านแล้ว
Volume buttons:  ปุ่มปรับเสียง ก็ลองเช็คด้วยกด กด +/- ดูว่าทำงานถูกต้องไหม เพราะเคยมีรายงานในระยะแรก ปุ่ม + / - ใส่สลับตำแหน่งกัน


iPhone 4
Camera : กล้อง ลองถ่ายรูปจากทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง ลองแตะเพื่อปรับโฟกัสภาพ (tap to focus) โดยลองแตะบริเวณที่สว่างที่สุด หรือที่มืดที่สุด จากภาพในกล้อง ซึ่งปรกติแล้วกล้องจะต้องปรับความสว่าง และโฟกัสภาพไปที่บริเวณที่แตะ รูปที่ถ่ายสีต้องไม่เพี้ยน


ลองถ่ายรูปกับกระดาษขาว ถ้าขึ้นภาพแนวนี้มา ก็แปลว่ากล้องมีปัญหา


LED Flash มีปัญหา ติด ๆ ดับ ๆ
แล้วอย่าลืมทดสอบเปิด Flash กล้อง โดยการแตะที่หน้าจอบริเวณด้านบนซ้าย ตอนเปิด camera app จนขึ้นว่า "on" แล้วลองถ่ายรูปดูว่า Flash ทำงานไหม เสร็จแล้วก็ลองถ่ายวีดีโอต่อ ตอนเล่นคลิปวีดีโอ อย่าลืมเช็คว่ามีเสียงในคลิปไหม ภาพวีดีโอลื่นไหล ไม่มีกระตุก หรือสีเพี้ยน

Accelerometer : วิธีลองง่ายสุด ก็คือลองเอียง iPhone 4 จากแนวตั้งไปแนวนอน หน้าจอจะต้องปรับภาพตามที่เราเอียงตัวเครื่อง และลองเข้า Message สำหรับส่ง SMS รอให้ขึ้น keyboard แล้วลองเขย่าเครื่องดู ถ้า Accelerometer ทำงาน จะต้องขึ้น "Undo typing or cancel" (อย่าลืมปิด Portrait orientation lock ก่อนทดสอบ)
ภาครับสัญญาณ (Antennae) :
3G : อันนี้คงต้องลองกับซิมที่มีให้ทดลอง 3G อย่างเช่น TrueMove 3G หรือ TOT และมีเพียงบางพื้นที่ที่มีให้ทดลองบริการ 3G วิธีการทดสอบที่ง่ายที่สุด ก็คือลองเปิดเว็บด้วย Safari หรือจะลองใช้ speedtest mobile ในการทดสอบความเร็วเน็ตก็ได้ และลองจับเครื่องแน่น ๆ โดยใช้อุ้มมือซ้าย แล้วดูว่าสัญญาณลดลงไปอย่างรวดเร็วไหม เช่นจาก สี่ขีด เหลือ ขีดเดียวหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เจอปัญหา Death Grip ซะแล้ว ก็วิธีแก้ปัญหาก็คือ หากรอบมาใส่ไอโฟนครับ
EDGE/GPRS : ให้ไปที่ Settings > General > Network แล้วกด "off" ที่ Enable 3G รอสักพัก ไอโฟนจะเปลี่ยนไปใช้เครือข่าย 2G แล้วก็ลองเหมือน 3G ดูครับ ว่าทำงานไหม เน็ตวิ่งหรือเปล่า ยังไงถ้าทำแล้วเน็ตไม่วิ่งลอง กด เปิด/ปิด air plane mode สักครั้งสองครั้งดู ก่อน
GPS : ให้เปิด Maps app แล้วกดที่ ลูกศร ที่ด้านล่างซ้าย รอสักพัก จะเห็นลูกกลมสีฟ้าขึ้น พร้อมบอกตำแหน่งของเรา ซึ่งก็ควรจะแสดงตำแหน่งใกล้เคียงกับ ตำแหน่งที่เราอยู่จริง ด้วยการออกแบบใหม่ของ iPhone 4 ทำให้ GPS สามารถรับสัญญาณได้ดีขึ้น แม้จะอยู่ในตัวอาคารอีกด้วย
Bluetooth : ลองต่อ iPhone 4 ของคุณกับ หูฟัง Bluetooth ของคุณ หรือลองต่อกับชุด BlueTooth บนรถว่าสามารถทำงานได้ปรกติไหม เชื่อมต่อได้ตลอดหรือเปล่า แต่ถ้ามีปัญหา ก็ลอง upgrade เป็น iOS 4.1 ขึ้นไป
Wi-Fi : ลองเปิด WiFi ให้เป็น "On" ดูว่าเจอสัญญาณไร้สาย WiFi บ้างไหม (อยู่ในพื้นที่ที่มี WiFi HotSpot) ลอง connectดูว่า สามารถใช้งานได้หรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหากับตรงจุดนี้ น่าจะเชื่อมต่อและใช้งานได้ดีขึ้นด้วย เพราะสนับสนุน 802.11n แล้ว


iPhone 4 ที่มีปัญหา touchscreen ไม่ทำงาน

บางเครื่องมีปัญหา white balance (ภาพออกสีเหลือง) ในภาวะแสงน้อย YouTube
Touchscreen : วิธีการทดลองก็ลองเปิด app อะไรก็ได้ที่ต้องใช้ keyboard แล้วลองพิมพ์ประโยค "The quick brown fox jumps over the lazy dog" โดยทำซ้ำ โดยเอียงเครื่องเพื่อเปลี่ยนเป็น landscape mode (คียบอร์ดแนวนอน) โดยทำอย่างนี้ให้ครบทั้ง 4 ด้าน ซึ่งก็จะเป็นการใช้พื้นที่ครอบคลุมเกือบทั้งหน้าจอ และการลอง multitouch ก็คือเปิด photo app เพื่อดูรูปที่ถ่ายไว้ แล้วลองเลื่อนนิ้วไปทางซ้าย หรือไปทางขวา ดูว่าภาพเลื่อนตามไหม และใช้สองนิ้ว ลากขยาย เพื่อซูมรูปดู


คราบสีเหลือง ที่พบในช่วงแรก ในการจำหน่าย iPhone ที่ USA เนื่องจากรีบเร่งในการผลิต
LCD : เช็ค dead pixel โดยการเข้าเว็บจาก Safari ไปที่ http://iphonedpt.awardspace.com/ หรือลองใช้โปรแกรมพวก Flash light ที่จะแสดงสีต่างๆ  กันไปทั้งหน้าจอ หรือจะเข้า YouTube app แล้วค้นหาคำว่า "dead pixel" ดูก็ได้  ส่วนใครจะเช็ค back light ก็ไปที่ Setting ->  Brightness แล้วลองเลื่อนตัวสไลด์จากซ้ายสุดไปขวาสุดดูว่า ความสว่าง back light เปลี่ยนแปลงไหม
Ambient Light Sensor : เซ็นเซอร์แสงสว่างในห้อง วิธีเช็คก็คือ ไปอยู่ในห้องมืด แล้วไปปรับที่ Setting -> Brightness ซึ่งค่าที่มากับเครื่อง Auto-Brightness จะถูก off อยู่ หน้าจอจะสว่าง แต่ถ้ากด on ความสว่างของหน้าจอจะหรี่ลง
Magnetometer : เข็มทิศ ให้ไปที่ Compass app แล้วลองหมุนรอบตัวดู ว่าเข็มทิศทำงานหรือไม่ ถ้า iPhone ขึ้นให้ วาดเครื่องเป็นรูปเลข 8 ตลอดเวลา แม้จะหมุนเครื่องเป็นเลข 8 แล้วไม่หาย ก็แปลว่าเข็มทิศในเครื่องมีปัญหา
Gyroscope : อันนี้เป็นลูกเล่นใหม่ ต้องลองโหลด free app Gyroscope มาลองใช้งานดู ถ้าค่า Pitch, roll, yaw ไม่เปลี่ยนแปลงเลย เมื่อขยับตัวเครื่องขึ้นลง ก็แปลว่าเซ็นเซอร์มีปัญหาแล้ว
สิ่งที่ต้องเช็คขณะใช้โทรศัพท์
ไมโครโฟน : ให้ลองทั้ง 2 แบบคือแบบใช้งานปรกติ กับเสียงออกลำโพง (speaker phone) ลองโทรออกดู คู่สนทนาต้องใช้เสียงเราชัดเจนดี โดยทั่วไปก็ไม่ค่อยมีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีรายงานว่า มีปัญหาโทรไปแล้วอีกฝั่งไม่ได้ยินเสียง ซึ่งปัญหาอาจจะเกิดจาก Noise Cancellation ในเครื่องรวน


ลำโพง : ควรลองทั้ง ลำโฟงตรงตำแหน่งหูฟัง และลำโพงที่บริเวณด้านล่างเครื่อง ไม่ควรมีเสียงเพี้ยนเกิดขึ้น ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นก็คือ มีเสียงเหมือน beatbox แทรกมาตอนโทรออก ลองดูจากคลิปด้านบน


iPhone 4 ที่เคยมีปัญหา proximity sensor หลังอัพเดต iOS 4.1 ปัญหาก็หมดไป โดยจะมีจุดสังเกตคือ sensor จะสว่างเป็นสีแดงขึ้นมา สังเกตได้ง่ายในที่มืด
Proximity Sensor :  หน้าจอต้องดับเองทุกครั้ง ที่เราแนบหูตอนโทรออก วิธีทดสอบคือ ให้ลองโทรเข้าหรือโทรออกก็ได้ แล้วเอามือป้องตรงส่วนบนใกล้กับบริเวณหูฟัง ดูว่าหน้าจอดับเองไหม ถ้ามีปัญหาหน้าจอ touchscreen ไม่ดับ ก็ควรลอง upgrade เป็น iOS 4.1 ดูก่อน ซึ่งได้มีการแก้ปัญหานี้ไปแล้ว ถ้า upgrade แล้วยังเป็นอยู่ แปลว่า proximity sensor มีปัญหา
Battery : แบตเตอร์รี่ ให้ลองทดสอบดูว่า แบตหมดเร็วกว่าปรกติทั่วไปหรือเปล่า ซึ่งจะลองทดสอบด้วยการเปิดหนังสักเรื่อง ไปเรื่อย ๆ จนแบตหมด ถ้าตามมาตราฐานแล้ว ทาง Apple บอกว่าแบตจะหมดภายใน 10 ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริง จะหมดเร็วกว่านั้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 7 ชั่วโมง โดยเปิดวีดีโอเล่นไว้ตลอด สำหรับเครื่องใหม่แกะกล่อง ชาร์ตไฟเต็ม 100 % แล้ว โดยปรับความสว่างหน้าจอตามค่าโรงงาน และไม่ได้เปิดเน็ต หรือทำอย่างอื่น ถ้าแบตหมดเร็วกว่า 7 ชั่วโมง แบตเตอร์รี่อาจจะมีปัญหาก็ได้
รวมๆ แล้วเป็นการทดสอบที่ใครๆ ที่อยากเช็คเครื่องโดยละเอียด ก็สามารถทำได้ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 15-20 นาที ไม่นับเวลา Sync ข้อมูลกับ iTunes ในการใช้ครั้งแรก

iPhone 4 มีอัตราการเสียที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุต่ำที่สุด

SquareTrade
เจ้าเดิมที่รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า iPhone 4 กระจกจอแตกมากกว่า iPhone 3GS เกือบเท่าตัว รายงานผลการวิจัยใหม่ โดย SquareTrade คาดการณ์ว่าภายใน 12 เดือน iPhone 4 จะมีอัตราเสียที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ 2.1% และผู้ผลิตโทรศัพท์ Android หลักอย่าง Motorola และ HTC ไม่ห่างกันมากคือ 2.3% และ 3.1% ตามลำดับ ส่วน BlackBerry อยู่ที่ 6.3% และ Smart Phone อื่นๆ อยู่ที่ 6.7%


Non accident
iPhone 4

อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียจากอุบัติเหตุของ iPhone 4 นั้นมากที่สุด แต่ใกล้เคียงกับ Motorola และ HTC คือ iPhone 4 อยู่ที่ 13.8% ภายใน 12 เดือน ส่วน Motorola และ HTC อยู่ที่ 12.2% เท่ากัน อัตราการเสียจากอุบัติเหตุน้อยที่สุดคือ BlackBerry ที่ 6.7%
เมื่อรวมผลทั้งหมดแล้วพบว่า iPhone 3GS มีอัตราการเสียทั้งจากอุบัติเหตุ และไม่ใช่อุบัติเหตุน้อยที่สุด รุ่นอื่นๆ ดูได้ตามกราฟครับ


Overall
iPhone 4

ปล. สำหรับ iPhone 4, Motorola และ HTC เป็นการคาดการณ์เนื่องการยังเก็บข้อมูลไม่ครบ 12 เดือน
ที่มา: SquareTrade ผ่าน MacRumors

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

iphone 4เปิดตัว ในไทยโดยทรูมูฟและดีแทค

ทรูมูฟ (True Move) และ ดีแทค (Dtac) เปิดตัว iPhone 4 ไอโฟน รุ่นใหม่ในไทย ข่าวบอกว่า iPhone 4 จะเริ่มเปิดตัวในไทยเดือน กันยายน และ ราคา ขาย ของ iPhone 4 จะตั้งอยู่ที่ไกล้เคียงกับ ราคาเดิมของรุ่น iPhone 3Gs โดยทั้ง ทรูมูฟ (True Move) และ ดีแทค (Dtac) จะตั้งราคาขายของเครื่อง  iPhone 4 เท่ากันอย่างแน่นอน

ทรูมูฟ (True Move) พร้อมเปิดตัว iPhone 4 ในประเทศไทย อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่ง iPhone 4 จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก พร้อมการแสดงผลบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่มีความละเอียดสูงสุด
ดีแทค (Dtac) เปิดตัว iPhone 4 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลกพร้อมหน้าจอสีที่มีความละเอียดสูงสุด เท่าที่เคยมีมาในตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย


สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลระบุว่า iPhone 4 มี กำหนดการ เปิดตัวครั้งแรกใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และญี่ปุ่น ภายในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้น 1 เดือน (ปลายเดือนกรกฎาคม) จะเพิ่มเป็น 18 ประเทศ และขยายอีก 40 ประเทศในเดือนกันยายน ซึ่งชื่อประเทศไทยติดในกลุ่มเดือนกันยายนนี้
หากใครที่คิดจะซื้อ iPhone 4 ของหิ้ว ต้องหมั่น update ราคาจาก Website เพราะราคาของ iPhone 4 เครื่องหิ้ว จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับราคา iPhone 4 ที่เป็น Official จากทางแอปเปิล จะอยู่ที่
  • ราคา iPhone 4 รุ่น 16GB ราคา 199 เหรียญ
  • ราคา iPhone 4 รุ่น 32GB ในราคา 299 เหรียญ
เป็นไปได้ว่า iPhone 4 ในประเทศไทยจะอยู่ในระดับ 3Gs เดิม นั่นคือรุ่น 16GB ราคา 22,900 บาท (ซื้อพร้อมแพคเกจบริการ) หรือ 24,500 บาท (ราคาเครื่องเปล่า) และรุ่น 32GB ราคา 24,500 บาท เครื่องเปล่าราคา 28,500 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

สำหรับ iPhone 3Gs รุ่น 8GB ที่แอปเปิลผลิตขึ้นมาใหม่นั้นเชื่อกันว่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 20,000 บาท (คำนวณจากราคาตลาดและความต่างของราคารุ่น 16GB และ 32GB)


หาก iPhone 4 ต้องวางจำหน่ายในเดือนกันยายนจริง ต้องถือว่าเป็นการวางจำหน่ายที่ช้ากว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ iPhone 3Gs ที่ชาวไทยสามารถรับเครื่องนำเข้าถูกต้องตามกฏหมายในปลายเดือนสิงหาคม โดยแอปแปิลนั้นเปิดตัว iPhone 3Gs ครั้งแรกในต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และทรูสามารถจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ก่อนจะเริ่มส่งมอบเครื่องในปลายเดือนสิงหาคม

รายละเอียด และ คุณสมบัติ ของ iPhone 4

สำหรับ iPhone 4 คือไอโฟนรุ่นถัดไปที่แอปเปิลระบุว่ามีคุณสมบัติใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 จุด ได้แก่ หน้าจอเทคโนโลยีใหม่ Retina Display ที่สามารถแสดงผลได้ดีขึ้น 4 เท่า ให้ความละเอียด 326 ppi หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 960×640 พิกเซล มีกล้องด้านหน้าสำหรับการทำวิดีโอคอล จุดเด่นคือตัวเครื่องที่บางเพียง 9.3 มม. ทำสถิติสมาร์ตโฟนที่บางที่สุดในโลกขณะนี้ มาพร้อมซีพียูตัวใหม่ซึ่งติดตั้งในไอแพด นั่นคือ Apple A4 ประหยัดพลังงานจนทำให้เครื่องสามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง หรือเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 10 ชั่วโมง เล่นอินเทอร์เน็ตต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง ระยะเวลาสแตนด์บายเครื่อง 300 ชั่วโมง
ทรูมูฟ (True Move) นั้นเพิ่งฉลองยอดขายไอโฟนทะลุแสนเครื่องไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะสามารถขายเพิ่มได้อีก 120,000 เครื่องหรือมากกว่าเดิม 20% ในปีนี้ (2010) สำหรับดีแทค (Dtac) ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายไอโฟนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นระบุว่า แม้จะไม่ได้ไม่ทำตลาดไอโฟนด้วยตัวเอง ดีแทค (Dtac) ยังมีผู้ใช้ไอโฟนในเครือข่ายมากกว่า 87,000 ราย

iphone 4 | เปิดตัว iphone 4 | True iphone 4 | DTAC iphone 4 | ราคา iphone 4 ในไทย
ข้อมูลความจาก : witternews.com